วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กรณีเด็กและเยาวชนถูกจับกุมดำเนินคดี


1. เมื่อมีการจับกุมเด็กหรือเยาวชนแล้ว ต้องนำตัวไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวน

2. พนักงานสอบสวนถามปากคำเบื้องต้น และแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะพาเด็กหรือเยาวชนนั้นไปศาลเพื่อให้ศาลตรวจสอบการจับกุมภายใน 24 ชั่วโมง

3. ศาลตรวจสอบแล้วอาจพิจารณามอบตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นแก่ผู้ปกครองหรือส่งไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจฯ หรือสถานที่อื่นที่ศาลเห็นสมควร


4. ผู้ปกครองอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยเด็กหรือเยาวชนเป็นการชั่วคราว

5. ในกรณีที่ศาลปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ปกครองหรือนายประกันต้องนำตัวไปพบพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ เพื่อทำการสืบเสาะข้อเท็จจริง ส่วนในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนถูกควบคุมตัว ผู้ปกครอง
ต้องนำหลักฐานอายุของเด็กหรือเยาวชนไปพบพนักงานคุมประพฤติเพื่อให้ข้อเท็จจริง


6. หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเด็กและเยาวชน ก็จะถูกนำไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจฯ หรือ 
สถานที่อื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร

อำนาจหน้าที่ของสถานพินิจฯ

-    สืบเสาะและพินิจอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษา สุขภาพ ภาวะแห่งจิตนิสัย อาชีพ และฐานะของเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด และของบิดามารดา 
ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนนั้นอาศัยอยู่  ตลอดจนสิ่งแวดล้อมทั้งปวง เกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน รวมทั้งสาเหตุแห่งการกระทำความผิดเพื่อรายงานต่อศาล

-   ควบคุมเด็กและเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดไว้ในระหว่างการสอบสวน 
หรือการพิจารณาคดี หรือตามคำพิพากษา หรือคำสั่งศาล

-   จัดให้มีการตรวจรักษาพยาบาลเด็กและเยาวชน รวมทั้งการตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน โดยแพทย์และจิตแพทย์ในระหว่างการสอบสวน หรือพิจารณาคดี หรือในระหว่างควบคุมตัวในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

-    ดำเนินการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และจัดให้มีการศึกษา ฝึกและอบรม พัฒนาด้านพฤตินิสัย
ให้กับเด็กและเยาวชนในระหว่างควบคุม

-    ให้การสงเคราะห์ ช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ตลอดจนบิดามารดา ผู้ปกครองตามสภาพปัญหา ทั้งในระหว่างควบคุมตัวและภายหลังปล่อย

-    ดำเนินการด้านประมวลข้อเท็จจริงคดีอาญา คดีครอบครัว กำกับการปกครอง และดูแลทรัพย์สิน หรือสิทธิประโยชน์ของผู้เยาว์ตามคำสั่งศาล

-    ดำเนินการด้านกิจกรรมชุมชนและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่าย เพื่อการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชน

-    รณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติดและศึกษาค้นคว้าถึงสาเหตุการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน เผยแพร่ป้องกันการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มารู้จักสถานพินิจฯ กันเถอะ


                       เมื่อเด็กหรือเยาชนที่ต้องหาว่ากระทำผิดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม  พนักงานสอบสวนต้องรีบดำเนินการสอบปากคำโดยด่วน และนำเด็กหรือเยาวชนผู้นั้นส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่ได้ประกันตัวจะถูกควบคุมตัวไว้ในสถานแรกรับเด็กและเยาวชน เพื่อพินิจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน  หลังจากนั้นจะได้รับการตรวจสุขภาพ นักจิตวิทยาตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาและพนักงานคุมประพฤติทำการสอบปากคำเพื่อสืบเสาะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของเด็กและเยาวชนผู้นั้น  ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว  ก็จะสามารถนำมาจัดจำแนกประเภทเด็กและเยาวชน  และทำรายงานเสนอต่อศาลเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยในชั้นพิจารณาคดีต่อไป

                       สำหรับเด็กหรือเยาวชนที่เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  จะได้รับการดูแลภายใต้สิทธิขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต  ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาสุขอนามัย  เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลในครอบครัวและสิทธิอันชอบธรรมที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี

                       จะเห็นได้ว่าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนนั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2  ของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด  ซึ่งพวกเขาจะได้รับการดูแลและการปฏิบัติอย่างดี
ตามสิทธิทุกประการ

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิสัยทัศน์ ภารกิจ

วิสัยทัศน์เป็นผู้นำในการพิทักษ์ผู้เยาว์ เเละคืนเด็กดีสู่สังคม 
 


ภารกิจ
1. พิทักษ์คุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพเด็กเยาวชนผู้เยาว์และ
    ครอบครัวที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยส่งเสริมการใช้กระบวน
    การยุติธรรมทางเลือกและ และมาตรการอื่นๆ
2. ดำเนินการด้านคดีด้านการป้องกันบำบัดแก้ไขฟื้นฟูพัฒนาและ
    สงเคราะห์รวมทั้งเสริมสร้างระบบติดตามประเมินผล

3.ประสานความร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับชุมชนองค์กรภาครัฐและ
   เอกชนเพื่อสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมและลดการกระทำผิดของ
   เด็กและเยาวชน

4.ศึกษาวิเคราะห์วิจัยและพัฒนากฎหมายเด็กและเยาวชนรวมทั้ง
   ระบบรูปแบบวิธีการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน 

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความเป็นมาของสถานพินิจฯ

ประวัติความเป็นมา
สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

                 รัฐบาลได้เล็งเห็นว่าครอบครัวมีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน 
จึงได้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชน และครอบครัว พ.ศ. 2534 ตามแนวคิดสากลที่ถือว่าครอบครัวเป็นพื้นฐานอันสำคัญของชุมชน 
การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสมาชิก ทุกคนในครอบครัวและปัญหาครอบครัวย่อมส่งผล
ระทบถึงความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของทุกคนในครอบครัว

                 ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มีผลให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงยุติธรรม และในช่วงปี พ.ศ. 2545 รัฐบาลได้มีการปฏิรูประบบราชการ ใหม่ ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ขึ้น ทำให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้รับการยกฐานะเป็นกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2545